ขอถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

30.10.05

39 ปี ธกส.มินิมาราธอน

ชื่องาน: 39 ปี ธกส.มินิมาราธอน
วันที่: 30 ตุลาคม 2548
สถานที่: กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี
สรุปผลการประเมิน: 79 คะแนน เกือบดี

เส้นทางการเดิน-วิ่ง: เส้นทางการวิ่ง เป็นเส้นทางในกระทรวงสาธารณสุขที่ใช้กันอยู่เป็นประจำของงานวิ่งหลายๆงาน เป็นการวิ่งไป – กลับบนเส้นทางเดิม 10 กิโลเมตร บรรยากาศดีไม่ต้องวิ่งบนถนนให้สูดฝุ่น ดมควันกัน เส้นทางก็เป็นทางเรียบตลอดไม่มีเนิน ข้างทางก็เป็นบรรยากาศทั่วๆไปของกระทรวงสาธารณสุข มีบ่อน้ำบ้าง และมีต้นไม้เรียงรายตลอดเส้นทางการแข่งขัน

คำแนะนำสำหรับนักวิ่ง: สนามนี้เป็นสนามที่เหมาะกับนักวิ่งทุกระดับเช่นกัน ในเรื่องของเส้นทางสำหรับการวิ่งระยะสั้นๆก็ถือว่าสนามนี้ใช้ได้ เป็นทางเรียบไม่มีเนิน ไม่ยากจนเกินไป นักวิ่งน้องใหม่ที่สนใจจะเริ่มวิ่งครั้งแรกในงานนี้ก็ดีไม่น้อย เพราะนักวิ่งนับพันที่มาร่วมวิ่งจึงไม่ต้องกลัวเรื่องวิ่งคนเดียว หรือกลัวจะเข้าคนสุดท้าย และงานนี้เป็นงานที่หลายๆหน่วยงาน หลายๆองค์กรได้ให้ความสนับสนุน ดังนั้นในเรื่องของอาหารเครื่องดื่มมีเหลือเฟือ สำหรับปีนี้มีการแบ่งรุ่นทุกๆ 5 ปี ซึ่งเป็นกำลังใจให้นักวิ่งน้องใหม่ได้มีโอกาสขึ้นรับถ้วยรางวัลมากขึ้นด้วย ดังนั้นในการจัดครั้งต่อๆไป งานนี้เป็นอีกงานที่น่าให้การสนับสนุนจากนักวิ่งและคิดว่าคงจะได้รับการสนับสนุนจากนักวิ่งมากขึ้นอย่างแน่นอน

คำแนะนำสำหรับผู้จัด: สำหรับงานนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อปี 2547 ได้จัดชนกับงานยักษ์ใหญ่อย่าง UN DAY นักวิ่งก็มาร่วมงานกันเยอะมากทีเดียว มาปีนี้ 2548 ได้มีการย้ายสถานที่จัดจากปีก่อนและไม่ได้มีการใช้ชิพเหมือนคราวที่แล้วแต่จำนวนนักวิ่งก็ไม่ได้ลดน้อยลงแต่กลับเพิ่มจำนวนมากขึ้น นักวิ่งนับพันให้ความสนใจมาร่วมวิ่ง 39 ปีธกส. ดังนั้น ตอนนี้เชื่อได้ว่างานวิ่ง ธกส. เป็นที่ติดตลาดของนักวิ่งไปอีกหนึ่งสนาม ดังนั้นเชื่อว่าชื่อเสียง ธกส.มินิมาราธอน จะได้รับการสนับสนุนจากนักวิ่งต่อไปแน่นอน เมื่อได้รับการตอบรับดีขนาดนี้ ก็อยากให้ผู้จัดได้เลือกเส้นทางสวยๆให้นักวิ่งได้วิ่งกันหน่อย และเมื่อนักวิ่งจำนวนมากให้การสนับสนุนขนาดนี้อยากให้ผู้จัดคำนึงถึงสถานที่จัดงานมากขึ้นเพื่อรองรับจำนวนนักวิ่งที่มากขึ้นๆ และคำนึงถึงขยะที่เพิ่มขึ้นด้วย จากอาทิตย์ที่ผ่านมาสังเกตได้ว่าขยะจำนวนมากได้ถูกทิ้งเกลื่อนในบริเวณงาน ถังขยะก็มีไม่เพียงพอ แถมที่มีบางจุดยังถูกคว่ำไม่ให้ใช้ งานวิ่งดีๆอย่างนี้ก็อยากให้ดีมากขึ้น มีการจัดการที่ดีมากขึ้น นักวิ่งก็จะได้วิ่งสนามดีๆมีคุณภาพ

Labels: , ,

29.10.05

Standard Chartered Run

ชื่องาน: Standard Chartered Run
วันที่: 29 ตุลาคม 2548
สถานที่: สวนลุมพินี กรุงเทพฯ
สรุปผลการประเมิน: 77 คะแนน เกือบดี

เส้นทางการเดิน-วิ่ง: สำหรับระยะ 11 กิโลเมตร เป็นเส้นทางวิ่งวน จากจุดปล่อยตัวแล้วมาเข้าเส้นชัย ณ จุดปล่อยตัวอีกครั้ง ปล่อยตัวจากสวนลุมพินี เวลา 06.45 น. จากสวนลุมวิ่งออกสู่ถนนพระรามสี่ ผ่านสวนลุมไนท์บาซ่าร์ ตรงไปเรื่อยๆ เลี้ยวซ้ายผ่านศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์ เข้าสวนเบญจกิตติ วิ่งในสวน 1 รอบแล้วออกจากสวนวิ่งไปแยกอโศกเพื่อเข้าสู่ถนนสุขุมวิท จากเลี้ยวซ้ายไปถนนดวงพิทักษ์ เพื่อวิ่งบนสะพานทางเดินลอยฟ้า (Sky walk Bridge) พอลงจากสะพานก็เข้าเส้นชัย ณ จุดสตาร์ทอีกครั้ง เส้นทางโดยส่วนใหญ่เป็นทางเรียบ เป็นถนนในเมืองซึ่งมีการจราจรคับคั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นวันเสาร์ซึ่งยังคงเป็นวันทำงานจึงทำให้การพลุกพล่าน ฝุ่น ควันรถตลบอบอวลพอดู แต่ถึงแม้จะเป็นถนนที่มีการจราจรคับคั่งงานนี้ผู้จัดก็ได้ประสานงานเป็นอย่างดีทีเดียวสำหรับเส้นทางการวิ่งถึงแม้จะปิดการจราจรไม่ได้ 100 เปอร์เซนต์ แต่ 1ช่องทางก็ถูกแบ่งมาให้นักวิ่งโดยเฉพาะแล้วมีเจ้าหน้าที่ให้การดูแลตลอดเส้นทาง ตลอดข้างทางการวิ่งส่วนใหญ่ก็เป็นตึกสูงๆ และบนถนนก็คราคร่ำไปด้วยรถนานาชนิด

คำแนะนำสำหรับนักวิ่ง: สนามนี้ถึงแม้จะจัดวิ่งในกรุงเทพบรรยากาศและเส้นทางการวิ่งไม่ค่อยจะประทับใจสักเท่าใดนัก แต่ด้วยวัตถุประสงค์ของงานวิ่ง เพื่อการกุศลสำหรับผู้พิการทางสายตา และสปอนเซอร์สนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้โดย Standard Chartered Bank ซึ่งได้ให้การสนับสนุนการแข่งขันงานวิ่งใหญ่ๆ อาทิ The Standard Chartered Great City Race ในกรุงลอนดอน Singapore Marathon Hong Kong Marathon เหล่านี้เป็นต้น เมื่อได้มีโอกาสได้ร่วมวิ่งงานนี้ภาพโดยรวมอยากบอกว่างานนี้เป็นงานที่น่าวิ่ง หมาะสำหรับนักวิ่งทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นแนวหน้าที่มีเงินรางวัลมากมายและมีมูลค่าไม่น้อยทีเดียว หรือแม้แต่นักวิ่งแนวหลังที่มีของขวัญและของรางวัลจากการจับฉลาก มากไปกว่านั้นค่าสมัครที่ดูเหมือนจะจ่ายแพงกว่างานอื่นๆ แต่ของที่ระลึกไม่ว่าจะเป็นเสื้อ กระเป๋า กระติกน้ำ ผ้าเช็ดหน้าและผ้ารัดข้อมือสำหรับกันเหงื่อ ที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ต่อนักวิ่งเป็นอย่างมาก ด้วยค่าสมัครราคา 300 บาทก็คงหาที่ไหนไม่ได้ ก็คิดว่าราคาค่าสมัครก็สมเหตุสมผล เข้าเส้นชัยก็มีอาหาร น้ำดื่ม ไอศครีมให้ได้อิ่มอร่อยกันตลอดงาน และสุดท้ายที่อยากฝากไว้หากมีการจัดงานในครั้งต่อๆไปในบริเวณสวนลุมพินี เพื่อความสะดวกมากยิ่งขึ้นควรเลี่ยงที่จะนำรถยนต์ส่วนตัวไปเอง

คำแนะนำสำหรับผู้จัด:
ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความยินดีกับงานนี้ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ที่แม้จะจัดวิ่งวันเสาร์แต่นักวิ่งก็มาร่วมงานกันคับคั่ง สิ่งที่อยากแนะนำผู้จัดสำหรับงานนี้ก็คือ สถานที่การจัดงานและเส้นทางการแข่งขัน ซึ่งเป็นไปได้ในการแข่งขันครั้งต่อๆไปอยากให้เปลี่ยนสถานที่การแข่งขันให้เพื่อนักวิ่งจะได้สะดวกมากยิ่งขึ้นเนื่องจากบริเวณสวนลุมพินี มีผู้คนจำนวนมากไปออกกำลังกาย และเมื่อบวกกับนักวิ่งที่มาร่วมงานนับพัน ทำพื้นที่ให้จอดรถจำนวนจำกัดมากไม่เพียงพอ นอกจากนั้นเส้นทางการวิ่งบนถนนที่มีการจราจรคับคั่งก็ทำให้นักวิ่งวิ่งไม่สะดวก ผู้คนที่ใช้เส้นทางสัญจรไปมาก็ไม่สะดวก หากหลีกเลี่ยงเส้นทางการวิ่งบนถนนกลางใจเมืองกรุงเทพได้ก็จะเป็นการดีมากๆ อีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้ผู้จัดได้ปรับอีกสักหน่อยคือ การประกาศรางวัลสำหรับนักวิ่งแนวหน้าและผู้ได้รับรางวัล เนื่องจากงานนี้มีการใช้ชิพไทม์มิ่งในการจับเวลา แต่ผู้จัดไม่ได้ทำป้ายอันดับไว้สำหรับนักวิ่งแนวหน้าทำให้นักวิ่งแนวหน้าทั้งหลายต้องรอกันนานกว่าจะรู้ผลการแข่งขัน และเมื่อผลออกมาไม่ตรงกับการวิ่งจริงทำให้นักวิ่งใช้เวลาในการตรวจสอบกันอีกนาน ซึ่งกว่าจะได้ขึ้นรับรางวัลก็รอกันนานทีเดียว

Labels: , ,

23.10.05

ภูเก็ต ภูเขา หาดทราย มาราธอนนานาชาติ ครั้งที่ 1

ชื่องาน: ภูเก็ต ภูเขา หาดทราย มาราธอนนานาชาติ ครั้งที่ 1
วันที่: 23 ตุลาคม 2548
สถานที่: ณ สวนสาธารณะ กะรน หาดกระรน จ.ภูเก็ต
สรุปผลการประเมิน: 73 คะแนน พอใช้ได้

เส้นทางการเดิน-วิ่ง: เส้นทางการแข่งขันสำหรับมาราธอน 42.195 กิโลเมตร เป็นเส้นทางถนนลาดยางวิ่งขึ้นและลงเขา เรียบหาดทราย โดยเริ่มจากสวนสาธารณะกระรน – ย้อนไปภูเก็ตเมอร์ริเดียน ประมาณ 3.5 - และวิ่งย้อนกลับไปแหลมพรหมเทพ และวิ่งกลับมาเข้าสู่เส้นชัย ณ จุดสตาร์ทอีกครั้ง เส้นทางการวิ่งของสนามนี้ถือว่าโหดเอามากๆ ไม่ว่าจะเป็นพัทยา ขึ้นเนินในช่วงสุดท้าย หรือ ลานสกาที่วิ่งไปกลับภูเขา 2 ลูก เรียกว่าสองสนามนั้นถูกทำลายสถิติในด้านความโหดไปเลย เส้นทางขึ้น ลงเขาที่ทั้งสูงและชัน ตลอดเส้นทาง 42.195 กิโลเมตร แต่โชคดีที่อากาศไม่ร้อนมากนัก มีลมทะเลพัดเย็น และฝนตกปรอยๆลงมาเล็กน้อยพอเป็นกะสัย ในบริเวณจุดปล่อยตัว ณ หาดกะรน ค่อนข้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวทำให้ในเส้นทางในช่วงนั้นค่อนข้างพลุกพล่านนิดหน่อย มีกลิ่นควันรถบ้างเล็กน้อยถึงแม้จะปล่อยตัวเวลา 03.30 น. ก็ตาม

คำแนะนำสำหรับนักวิ่ง:
สำหรับสนามนี้นักวิ่งจะต้องทำการฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี เนื่องจากเส้นทางขึ้น-ลงเขา หลายลูกและมีความชันมากพอสมควร สนามนี้ไม่เหมาะสำหรับนักวิ่งมาราธอนเท้าใหม่เท่าใดนัก ในระหว่างการวิ่งสิ่งที่นักวิ่งต้องระวังมากเป็นพิเศษ คือเรื่องการเป็นตะคริว เพราะเนื่องจากการวิ่งลงเขาที่ทั้งสูงและชัน จะทำให้เท้าเกร็ง เพื่อป้องกันการลื่นไถลลงมา
ถึงแม้สนามนี้จะมีเงินรางวัลเป็นสิ่งล่อใจนักวิ่งแนวหน้าทั้งหลาย แต่นักวิ่งแนวหน้าก็ไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าใดนัก ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากสภาพเส้นทางการวิ่งที่โหดมากๆอย่างนี้ ซึ่งเสี่ยงต่อการบาดเจ็บเป็นอย่างมากสำหรับนักวิ่งที่ใช้เวลาเป็นเป้าหมายหลักสำหรับการวิ่ง ดังนั้นอยากบอกว่าหากสนามนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการวิ่ง สนามนี้ก็จะเรียกได้เป็นสนามที่โหดที่สุด เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ชื่นชอบความท้าทาย อาศัยความทรหดสะกดความทรมาน

คำแนะนำสำหรับผู้จัด:
สนามนี้เป็นสนามที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นอย่างมาก ได้ทั้งความงามของธรรมชาติที่แฝงไปด้วยความโหดร้ายสำหรับระยะมาราธอน ดังนั้นในการจัดครั้งต่อๆไปหากผู้จัดยังคงใช้เส้นทางเดิม นักวิ่งส่วนใหญ่ที่จะเข้าร่วมวิ่งก็จะเป็นนักวิ่งที่ชื่นชอบความท้าทาย และเหล่าบรรดานักวิ่งหน้าเก่าๆเท่านั้น หน้าใหม่ไม่กล้าลงเพราะสนามนี้ต้องอาศัยความพร้อมของร่างกายเป็นอย่างมากที่จะจบการแข่งขัน สนามนี้อาจจะต้องเน้นไปที่ระยะสั้นเพื่อดึงดูดนักวิ่งหน้าใหม่
ในการจัดครั้งนี้ก็ได้เห็นความตั้งใจของเจ้าภาพเป็นอย่างมาก แต่ในบางครั้งความตั้งใจก็ยังไม่พอที่จะให้งานประสบความสำเร็จดังหวังได้ แต่ก็หวังว่าประสบการ์ณในการจัดครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ ภูเก็ต ภูเขา ชายหาด มาราธอนนานาชาติ ครั้งที่ 2 ประสบความสำเร็จมากขึ้นกว่านี้
สำหรับวัตถุประสงค์การจัดวิ่งในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว ดังนั้นการที่การจัดทัวร์ท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ หรือจัดทำแพคเกจสำหรับนักวิ่งในราคาประหยัด หรือหลายๆระดับตามแต่ความต้องการของนักวิ่งก็จะเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง นอกจากนั้นโรงแรมต่างๆก็จะได้เข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้นและได้ประโยชน์จากการจัดวิ่งมากขึ้นด้วย

Labels: , , , ,

16.10.05

รำลึก 105 ปีสมเด็จย่า ดอยตุงมินิ / ฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่ 13

ชื่องาน: รำลึก 105 ปีสมเด็จย่า ดอยตุงมินิ / ฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่ 13
วันที่: 16 ตุลาคม 2548
สถานที่: ณ สถานีขนส่ง ปากทางขึ้นพระตำหนักดอยตุง อ. แม้ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
สรุปผลการประเมิน: 74 คะแนน ใช้ได้ เกือบดี

เส้นทางการเดิน-วิ่ง: เส้นทางการวิ่งของงานนี้ เริ่มต้นจากบริเวณหน้าสถานีขนส่งดอยตุง (ท่ารถม่วง) วิ่งไปสู่เส้นชัยอีกจุดหนึ่งซึ่งเป็นบริเวณหน้าอาคารหอพระราชประวัติพระหนักดอยตุง ตลอดเส้นทางการวิ่งร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ หมอกบางๆ ตลอดเส้นทางการวิ่งมินิ เป็นเส้นทางลาดยางวิ่งขึ้นเนินตลอด การจราจรปิดสนิทสำหรับนักวิ่ง ถือได้ว่าเป็นเส้นทางที่เหมาะสมสำหรับการวิ่ง การออกกำลังกาย และท่องเที่ยว ทั้งสวยงาม และแฝงไปด้วยความท้าทายสำหรับนักวิ่งพอดู กอรปกับการดูแลจากหน่วยปฐมพยาบาล และจุดให้น้ำที่ให้กันทุกๆ 2 กิโล ถือว่าเป็นเส้นทางการวิ่งที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ทั้งบรรยากาศ ความท้าทาย และ ความปลอดภัย

คำแนะนำสำหรับนักวิ่ง:
เส้นทางการแข่งขันแห่งนี้เป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกายและการไปพักผ่อนเป็นอย่างมาก และเส้นทางการวิ่งที่ขึ้นเนิน ขึ้นดอยตลอด เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศที่เคยวิ่งแต่ทางเรียบเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาทักษะการวิ่งได้อีกด้วย และการวิ่งขึ้นดอยครั้งนี้ก็ไม่อันตราย และไม่ค่อยมีผลกระทบต่อร่างกายนักวิ่งมากนัก แต่ในทางกลับกันหากเปลี่ยนเส้นทางจากการวิ่งขึ้นดอยเป็นลงดอย คิดว่างานนี้นักวิ่งหลายๆคนอาจบาดเจ็บได้ เพราะทางค่อนข้างชัน สำหรับการฝึกซ้อม และเตรียมตัววิ่งขึ้นดอยแล้ว ในระหว่างร่วมการแข่งขันสนามนี้ก็อยากแนะนำให้นักวิ่งได้พกเงินติดตัวกันไปด้วย เนื่องสถานที่การแข่งขันแห่งนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว พอเสร็จสิ้นการแข่งขันก็จะได้ซื้อของฝากติดมือกลับบ้านกันได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาลงมาอีกครั้ง และเนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยม ทำให้ราคาสินค้าสูงไปบ้าง

คำแนะนำสำหรับผู้จัด: งานวิ่งวันนี้ถือว่าจัดได้ดี และได้ถูกจัดเป็นงานวิ่งประเพณี ถึงแม้จะจัดขึ้นชนกับงานยักษ์ใหญ่ในกรุงเทพ แต่ก็พบว่านักวิ่งจากกรุงเทพจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจและไปร่วมวิ่งงานนี้ โดยเส้นทางการวิ่งที่ได้ใช้ในการแข่งขันถือว่าเป็นเส้นทางที่สวยงาม ท้าทายนักวิ่งและเป็นเอกลักษณ์ของงานวิ่งนี้ได้เป็นอย่างดี และการปิดถนนสำหรับนักวิ่งและความพร้อมระหว่างเส้นทางการแข่งขันถือว่าทำได้ดีมาก แต่มีบางสิ่งที่อยากจะแนะนำสำหรับงานนี้ เพื่อให้นักวิ่งได้ประทับใจและไปวิ่งอีกทุกครั้งไป งานนี้พบว่าเด็กอายุต่ำกว่า 17 ปีในพื้นที่จำนวนไม่ต่ำกว่าร้อยคนเข้าร่วมวิ่งในวันนี้โดยที่เด็กเหล่านี้น่าจะเป็นเด็กนักเรียนและไม่ได้มีผู้ปกครองมาด้วย แต่หลังจากวิ่ง 13.5 กิโลเข้าเส้นชัยไปแล้ว ไม่มีอาหารสำหรับเด็กและนักวิ่งเลย นอกจากน้ำเปล่า 1 ขวด มีแต่ร้านค้าที่ขายของสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งมีราคาแพงน่าดูเชียวแค่ขนมปังชิ้นนึงก็ปาเข้า 30 บาทแล้ว น้ำเย็นอีกแก้วก็อีก 20 บาท รวมแล้วก็ 50 บาทแล้ว วิ่งมาเหนื่อยๆขนมปัง 1 แผ่นกับน้ำ 1แก้วยังคงไม่พอบรรเทาอาการหิวและเหนื่อยได้แน่นอน อย่างน้อยก็น่าจะซัก 100 บาทพอจะบรรเทาไปได้บ้าง สำหรับนักวิ่งผู้ใหญ่ก็คงพอจะจ่ายได้ แต่สำหรับเด็กนับร้อยๆเหล่านั้นล่ะ ก็คงต้องเดินกลับลงไปอีก 13 กิโลพร้อมน้ำเปล่า 1 ขวดไปกินข้าวบ้าน ในครั้งต่อไปอยากให้ผู้จัดได้เตรียมอาหารไว้สำหรับนักกีฬาบ้าง โดยที่ค่าใช้จ่ายตรงจุดนั้นอาจจะเป็นการเก็บค่าสมัครนักวิ่งผู้ใหญ่เพิ่มขึ้นมา ส่วนสำหรับนักเรียนและเยาวชนก็วิ่งฟรีเช่นนี้ต่อไป ผลสืบเนื่องจากข้อแรกที่บอกว่าต้องเดินลงอีก 13 กิโล เนื่องจากรถที่ให้บริการเที่ยวกลับแก่นักกีฬาไม่ได้แจ้งจุดรับส่งที่แน่นอนหรือมีสัญสักษณ์ติดให้รู้ว่าเป็นรถบริการฟรีสำหรับนักกีฬา เด็กในพื้นที่เคยเห็นว่าเป็นรถบริการที่เคยต้องจ่ายค่ารถก็ไม่กล้าขึ้น เดินลงดีกว่า ยิ่งกว่าลงวิ่งฮาล์ฟอีกนะคะไปกลับ 26 กิโล ในครั้งต่อๆไปอยากให้รถที่บริการนักกีฬา มีจุดรับส่งที่แน่นอน และมีป้ายผ้าติดให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นรถให้บริการสำหรับนักวิ่งและนักกีฬา เนื่องจากสถานที่การแข่งขันเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งท่องเที่ยว ดังนั้นการจัดตั้งถังขยะก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง การมีถังขยะถาวรจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การรักษาความสะอาดของสถานที่เป็นไปได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และใช้ได้ตลอดไป และโดยเฉพาะบริเวณจุดปล่อยตัว หาถังขยะไม่ค่อยมี นักวิ่งก็เลยทิ้งไปทั่วเลย ข้างทาง ข้างถนน และทั่วๆไป หลังจากแข่งวิ่งเสร็จก็ลงไปร่วมปั่นจักรยานเห็นภาพสถานที่บริเวณจุดปล่อยตัวแล้วไม่งามเอาซะเลย มีแต่แก้วน้ำ ขยะเกลื่อนไปหมด เราเองก็มีขยะพยายามเดินหาถังขยะก็ไม่เจอก็เลยต้องยัดใส่กระเป๋าตัวเองไว้ก่อน หากแก้ไขตรงจุดนี้ได้ สถานที่แห่งนี้คงจะงดงามทุกเวลาที่ใครผ่านไปผ่านมาเวลาไหนก็งดงาม อย่าคิดว่าเป็นเพียงท่ารถจะขยะเยอะก็ไม่เป็นไร เพราะนั่นก็เป็นส่วนของการท่องเที่ยว และเพื่อเป็นการส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมตามวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ด้วย

เรื่องการแจกถ้วยรางวัล เนื่องจากอาจเป็นประเพณีที่ต้องรอแจกรางวัลให้นักกีฬาหลังจากที่กีฬาทุกประเภทแข่งขันเสร็จสิ้นลง แต่ว่ากีฬาแต่ละประเภทเริ่มการแข่งขันไม่พร้อมกัน ดังนั้นการเสร็จสิ้นย่อมไม่พร้อมกันแน่นอน ทำให้นักกีฬาบางประเภทที่เสร็จก่อนต้องรอกันนาน....... สำหรับนักวิ่งตื่นกันแต่เช้า เพื่อวิ่งกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า วิ่งเสร็จอาหารก็ไม่ได้มีเตรียมไว้ให้ แถมให้นั่งรอแจกถ้วยโดยที่ไม่มีเวลาแน่นอนเลยว่าจะแจกถ้วยเมื่อไหร่ นักกีฬาจะเที่ยวก็ต้องมาพะวงหน้าพะวงหลังคอยรอเรียกรับรางวัล นักกีฬาบางท่านเดินทางมาไกล ก็ทำให้ต้องรีบเร่งในการเดินทางกลับเพื่อให้ทันไปทำงานในวันรุ่งขึ้น หากเป็นไปได้ในครั้งต่อๆไปก็อยากให้กีฬาประเภทใดที่จบการแข่งขันก่อนก็แจกรางวัลไปปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงตรงจุดนี้ได้ก็จะดีมากทีเดียว เรื่องนี้อาจไม่สำคัญเท่าใดนัก เรื่องห้องน้ำ 3 บาท นักวิ่งก็เข้าใจนะคะว่าวิ่งฟรีแล้วจ่ายค่าห้องน้ำ 3 บาทก็คงไม่เหลือบากฝ่าแรงไปสักเท่าใด แต่เวลานักวิ่งไปร่วมวิ่งก็ไม่อยากจะพกเหรียญไปวิ่ง เพราะชุดวิ่งก็ไม่ค่อยจะมีกระเป๋า เป็นไปได้หากเก็บค่าสมัครจากนักวิ่ง แล้วผู้จัดเอาไปเหมาจ่ายกับผู้ดูแลรักษาผลประโยชน์ตรงจุดนั้นก็จะเป็นการดี

สุดท้ายก็ขออภัยหากคำแนะนำเหล่านี้ทำให้ผู้จัดต้องลำบากใจ แต่ก็ในฐานะนักวิ่งคนหนึ่งซึ่งได้มีโอกาสไปสัมผัสกับบรรยากาศและเส้นทางการวิ่งมาแล้ว ดิฉันคิดว่าหากปรับปรุงในเรื่องดังกล่าวที่กล่าวมาข้างต้น งานวิ่งประเพณีขึ้นดอยตุง จะเป็นงานที่นักวิ่งทุกทิศทั่วไทยให้ความสนใจและไปร่วมวิ่งอีกแน่นอน หรือหากปรับเพิ่มระยะมาราธอนมาอีกซักระยะ คิดว่าเป็นสนามวิ่งที่เหมาะกับนักวิ่งที่ชอบความท้าทายแน่นอน วิ่งขึ้นดอยชมวิวและบรรยากาศทะเลหมอกยามเช้าแห่งเมืองเชียงราย สุดยอดไปเลยล่ะค่ะ

Labels: , ,

วิทยุออนไลน์ 90.0 Sport Radio

99 FM เมืองไทยแข็งแรง